เมื่ออายุเยอะขึ้นสิ่งที่ตามมาแน่ๆ คือ “ปัญหาผมร่วง” บางคนอาจจะยังไม่ถึงวัยก็อาจเจอปัญหานี้แล้ว ยิ่งช่วงนี้เอฟเฟกต์ของวัคซีนโควิดก็ยิ่งเริ่มส่งผลให้เกิดภาวะผมร่วงอย่างหนักสำหรับคนไทย เพราะฉะนั้นแล้ว การจะหาเซรั่มช่วยให้ผมขึ้นไว และรักษาไม่ให้ผมร่วงมากกว่าเดิม เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยครับ
เราไปดูกันว่าทั้ง 5 ตัวนี้มีตัวไหนบ้างที่เหมาะกับเรา
1. The Ordinary Multi-Peptide Serum for Hair Density
เป็นเซรั่มยอดนิยมที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย โดยมีจุดเด่นที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหนังศีรษะและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ให้ดูหนาและแข็งแรงมากขึ้น ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ เปปไทด์ (ช่วยฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจน), ไบโอติน (บำรุงรากผม), กรดแลคติก (ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนหนังศีรษะ) และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทำให้เซรั่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผมและหนังศีรษะในระยะยาว
จุดเด่นของเซรั่มตัวนี้
- ช่วยให้ผมดูหนาและสุขภาพดีขึ้น: เหมาะสำหรับการดูแลเส้นผมในระยะยาว โดยหลายคนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังใช้ต่อเนื่อง 2-3 เดือน
- ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม: สูตรผลิตภัณฑ์เป็นมังสวิรัติ (Vegan) และไม่มีการทดลองกับสัตว์
- วิธีใช้งานง่าย: หยดลงบนหนังศีรษะที่สะอาดในตอนกลางคืนและนวดเบา ๆ ไม่ต้องล้างออก
- แต่อาจจะมีความเหนอะหนะเล็กน้อย เพราะ Ordinary ขึ้นชื่อว่าใส่สารมาเน้นๆ ไม่มีการผสมสารที่ไม่จำเป็น เพราะฉะนั้นแล้วจะมีความเหนียวประมาณนึงครับ ใครที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ อาจจะข้ามไปก่อนได้ครับ
2. T-SER Hair Serum
คุณสมบัติเด่น:
- ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผมได้เร็วขึ้นถึง 5 เท่า
- ลดอาการผมร่วงและเพิ่มความแข็งแรงของรากผม
- มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากโสมและดอกเบญจมาศ
วิธีใช้:
- หยดเซรั่มบนหนังศีรษะในปริมาณที่เหมาะสม นวดเบา ๆ จนซึมซาบ
- ใช้เป็นประจำเช้า-เย็นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ข้อดี:
- ไม่มีสารเคมีอันตราย เช่น พาราเบน หรือแอลกอฮอล์
- เหมาะสำหรับทุกสภาพหนังศีรษะ
ราคา: เริ่มต้นที่ประมาณ 790 บาทต่อขวด
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือรากผมอ่อนแอ
3. Divyne Hair Serum
คุณสมบัติเด่น:
- ใช้เทคโนโลยี Growth Factors เพื่อบำรุงรากผมอย่างล้ำลึก
- ลดผมร่วงและฟื้นฟูหนังศีรษะให้แข็งแรง
- ป้องกันความเสียหายจากสารเคมีและความร้อน
วิธีใช้:
- หยดเซรั่มลงบนหนังศีรษะขณะสะอาด ใช้ปลายนิ้วนวดเพื่อการดูดซึม
- ใช้เป็นประจำวันละ 1 ครั้ง
ข้อดี:
- ลดผมบางและเสริมความหนาแน่นให้เส้นผม
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและซิลิโคน
ราคา: ประมาณ 1,000-1,500 บาท
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก
4. Cheveox Hair Nutrient
คุณสมบัติเด่น:
- สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ดอกเบญจมาศและสารสกัดพืชที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะ
- ลดการเกิดผมหงอกและเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม
วิธีใช้:
- ใช้เซรั่ม 2-3 หยด บนบริเวณที่ต้องการดูแลทุกวัน
- นวดเบา ๆ บริเวณหนังศีรษะจนซึมซาบ
ข้อดี:
- ไม่มีไมน็อกซิดิล จึงลดความเสี่ยงในการระคายเคือง
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้านของหนังศีรษะ
ราคา: ประมาณ 800-1,200 บาท
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการลดการหลุดร่วงของเส้นผมและฟื้นฟูหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น
5. I KORN Hair Serum
คุณสมบัติเด่น:
- มีสารสกัดจากธรรมชาติ 15 ชนิด เช่น ดอกอัญชัน โสม และเมล็ดองุ่น
- กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและขนบริเวณอื่น
วิธีใช้:
- หยดเซรั่มในปริมาณเล็กน้อยบนหนังศีรษะ และนวดเบา ๆ
- ใช้เป็นประจำทุกวันก่อนนอน
ข้อดี:
- ช่วยบำรุงเส้นผมตั้งแต่รากจรดปลาย
- มีส่วนผสมที่ปลอดภัยจากธรรมชาติ
ราคา: ประมาณ 1,000 บาท
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็วใน 7-14 วัน
ทั้ง 5 ตัวนี้เรียกได้ว่าเห็นผลได้แบบชัดเจน สำหรับใครที่กำลังมองหาเซรั่มปลูกผมที่มีประสิทธิภาพ แนะนำว่าห้ามพลาดทั้ง 5 ตัวนี้เลยครับ